Sunday, September 18, 2011

กฐินพระราชทาน


วิธีขอพระราชทานกฐิน

    การขอพระราชทานเพื่อทอดกฐิน ณ พระอารามหลวง ทำได้ ๒ ทาง คือ
๑ ติดต่อหน่วยราชการที่รับผิดชอบ (ปัจจุบันนี้คือ กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม) ว่าจะขอพระราชทานเพื่อทอดกฐินที่วัดไหน ถ้าวัดนั้นยังไม่มีผู้ใดขอพระราชทาน หน่วยราชการที่รับผิดชอบก็จะดำเนินการขอพระราชทานให้ตามความประสงค์
๒ ติดต่อวัดหลวงที่จะทอดกฐินนั้นโดยตรง ทางวัดจะแจ้งไปยังหน่วยราชการที่รับผิดชอบ ถ้ายังไม่มีผู้ใดขอพระราชทาน  หน่วยราชการที่รับผิดชอบก็จะดำเนินการขอพระราชทานให้ต่อไป
ในการติดต่อนั้นก็จะมีรายละเอียด เช่น กำหนดวัน เวลา ที่จะทอด และให้ผู้ขอพระราชทานไปรับผ้าองค์กฐินของหลวงจากหน่วยราชการที่รับผิดชอบตามวันที่กำหนดเพื่อนำไปทอดต่อไป 
องค์กฐินของหลวงนั้นประกอบด้วยผ้าและของบริวารจำนวนหนึ่ง ผู้ขอพระราชทานสามารถจัดของบริวารเพิ่มเติมเป็นการโดยเสด็จพระราชกุศลได้ตามกำลังศรัทธา


เรื่องควรรู้ในพิธีถวายกฐินพระราชทาน

๑. ธรรมเนียมของพระอารามหลวงทุกพระอาราม เวลารับผ้าพระกฐินจะจัดประกอบพิธีในพระอุโบสถ และตั้งอาสน์สงฆ์ทางด้านขวาของพระประธานเสมอ (สังเกตง่ายๆ เวลาเข้าประตูโบสถ์ อาสน์สงฆ์จะอยู่ทางด้านซ้ายมือของเรา)
๒. ที่นั่งของประธานจะหันหน้าไปทางอาสน์สงฆ์ แต่ที่นั่งของผู้ร่วมพิธีในพระอุโบสถจะหันหน้าไปทางพระประธาน (จำง่ายๆ ผู้ร่วมพิธีนั่งหันหลังให้ประตูโบสถ์ ประธานคนเดียวนั่งหันข้างให้ประตูโบสถ์)
๓. กฐินราษฎร์ ตั้งผ้ากฐินไว้ต่อหน้าพระสงฆ์เรียบร้อยแล้วก่อนทำพิธีถวาย แต่กฐินพระราชทาน ประธานต้องเชิญผ้ากฐินเข้าประตูพระอุโบสถเข้าไปถวาย
การรับผ้าพระกฐินพระราชทานก่อนที่จะเชิญเข้าไปทำพิธีถวายในพระอุโบสถ มีวิธีปฏิบัติ วิธี คือ
ก. จัดเจ้าหน้าที่ซึ่งแต่งเครื่องแบบปกติขาว คอยส่งผ้าพระกฐินให้ประธานในพิธีที่เชิงบันไดพระอุโบสถหรือหน้าประตูเข้าพระอุโบสถ หรือ
ข. จัดโต๊ะหมู่ที่หน้าพระอุโบสถหรือเชิงบันไดพระอุโบสถตามความเหมาะสม โดยตั้งพระบรมฉายาลักษณ์หรือพระบรมสาทิสลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีแจกันดอกไม้สดหรือพานพุ่มดอกไม้ ๑ คู่ (จัดประดับได้ตามความเหมาะสมของโต๊ะหมู่) ตัวกลางที่ วางพานแว่นฟ้า หรือตะลุ่มมุกสำหรับวางผ้าพระกฐิน ตัวกลางล่างวางธูปเทียนแพและกรวยดอกไม้ ๑ ชุด เมื่อใกล้ถึงกำหนดเวลา จึงนำผ้าพระกฐินไปวางบนพานแว่นฟ้าที่จัดไว้นั้น ไม่ต้องใช้พุ่มครอบไตร กรณีนี้ผู้เป็นประธานในพิธีจะเข้าไปเชิญผ้าพระกฐินพระราชทานที่โต๊ะหมู่
(จำง่ายๆ วิธีแรกมีผู้ส่งผ้าให้ประธาน วิธีหลังประธานไปเชิญผ้าที่โต๊ะหมู่เอง)
๔. พิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน ไม่มีการสมาทานศีล
๕. พระสงฆ์ที่ลงรับกฐินพระราชทาน (และกฐินหลวงทุกประเภท) ถ้ามีสมณศักดิ์ (คือเป็นเปรียญ [=ที่เรียกกันว่า พระมหา] เป็นพระครู และเป็นพระราชาคณะ [=ที่เรียกกันว่า ท่านเจ้าคุณ]) ท่านจะนั่งตามลำดับสมณศักดิ์ ไม่ได้นั่งตามลำดับอายุพรรษาเหมือนในพิธีกฐินราษฎร์
๖. พระสงฆ์ใช้พัดยศทำพิธีกฐินกรรมมีอปโลกน์เป็นต้น ตลอดทั้งอนุโมทนาและถวายอดิเรก  ในกรณีที่เจ้าภาพจัดทำตาลปัตร (พัดรอง) เป็นการโดยเสด็จพระราชกุศล ประธานสงฆ์จะใช้พัดรองนั้นตั้งอนุโมทนา  ยะถาสัพพีติโยก็ได้ เพื่อเป็นการฉลองศรัทธาให้ปีติปราโมทย์ในการบุญพระกฐินทานยิ่งขึ้น แต่เมื่อจะกล่าวคำถวายอดิเรกจะต้องใช้พัดยศและใช้ไปจนจบ  ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง...
   ๗. ในขณะที่พระสงฆ์ถวายอดิเรก (คือพระราชาคณะประธานสงฆ์กล่าวคำถวายพระพรเป็นพิเศษเฉพาะแต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นภาษาบาลี) ผู้อยู่ในพิธีทั้งหมดไม่ต้องประนมมือ
          เหตุผลที่ไม่ต้องประนมมือ (ควรจะใช้คำว่า “ห้ามประนมมือ” ด้วยซ้ำ) คือ ถวายอดิเรกเป็นการถวายพระพรเฉพาะพระเจ้าอยู่หัว ผู้ที่ไม่ใช่พระเจ้าอยู่หัวจึงไม่มีหน้าที่จะต้องประนมมือรับ การประนมมือรับเท่ากับรับว่าตนเป็นพระเจ้าอยู่หัวนั่นเอง  (นั่นคือกำลังทำสิ่งที่เป็นอัปมงคลให้แก่ตัวเองโดยไม่รู้ตัว!)
          เรื่องนี้เท่าที่เห็นมา มักทำไม่ถูกต้องกันมาก คือในขณะที่พระสงฆ์ถวายอดิเรกก็ประนมมือกันไปหมด ไม่เว้นแม้แต่ท่านผู้เป็นประธาน อันแสดงว่าขาดการศึกษาสำเหนียกถึงหลักปฏิบัติที่เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วงมากในปัจจุบัน     


ลำดับพิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน

          - ข้าราชการ สาธุชนผู้มีเกียรติ อุบาสก อุบาสิกา พร้อมกัน ณ พระอุโบสถ
          - ประธานในพิธีเดินทางมาถึงหน้าพระอุโบสถ  ไปที่ตั้งโต๊ะหมู่ซึ่งตั้งผ้าพระกฐินไว้ (ผู้ร่วมพิธีลุกขึ้นยืน)
          - ยืนถวายความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์ หรือพระบรมสาทิสลักษณ์
          - เปิดกรวยดอกไม้ ถวายความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์ หรือพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (โดยวิธีคำนับ ถอนสายบัว หรือประนมมือไหว้) อีกครั้งหนึ่ง
          - ยกผ้าพระกฐินขึ้นอุ้มประคองไว้ตรงอก ยืนตรงแสดงความเคารพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (ขณะที่ประธานยกผ้าพระกฐินอุ้มประคอง ดนตรีบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี)
          - เมื่อจบเพลง อุ้มประคองผ้าพระกฐินเดินเข้าสู่พระอุโบสถ ตรงไปวางผ้าพระกฐินที่พานแว่นฟ้า ซึ่งตั้งอยู่ชิดอาสน์สงฆ์ตรงหน้าพระสงฆ์รูปที่ ๒
          - ประธานจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย กราบแล้วไปที่พานแว่นฟ้า หยิบผ้าห่มพระประธานที่วางอยู่บนผ้าไตรพระกฐินส่งให้เจ้าหน้าที่หรือไวยาวัจกร
          - ยกผ้าพระกฐินขึ้นประคองให้อยู่บนท่อนแขนทั้งคู่ หันหน้าไปทางพระประธาน ประนมมือว่า
          นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ  (๓ จบ)
          แล้วหันหน้ามาทางพระสงฆ์ กล่าวคำถวายผ้าพระกฐินว่า 
          ผ้าพระกฐินทานกับทั้งผ้าอานิสงสบริวารทั้งปวงนี้ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ กอปรด้วยพระราชศรัทธา โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ (ระบุนามบุคคลหรือหน่วยงานที่ได้รับพระราชทาน)  น้อมนำมาถวายแด่พระสงฆ์ซึ่งจำพรรษากาลถ้วนไตรมาส ในอาวาสวิหารนี้ ขอพระสงฆ์จงรับผ้าพระกฐินทานนี้ กระทำกฐินัตถารกิจตามพระบรมพุทธานุญาตนั้น เทอญ
          - พระสงฆ์รับสาธุพร้อมกัน
          - วางผ้าพระกฐินบนพานแว่นฟ้า แล้วยกประเคนพระภิกษุรูปที่ ซึ่งนั่งอยู่ตรงพานแว่นฟ้า (ยกทั้งพาน) แล้วประเคนเทียนพระปาติโมกข์ (ยกทั้งพาน)
          - ประธานนั่ง ณ ที่จัดไว้
          - พระสงฆ์ทำพิธีกฐินกรรม
          - พระเถระองค์ครองลุกออกไปครองผ้าพระกฐิน  เสร็จแล้วกลับเข้ามานั่งที่เดิม (ในช่วงเวลาที่ออกไปครองผ้าถ้ามีดนตรีให้บรรเลงเพลงสาธุการ เมื่อครองผ้าเสร็จกลับเข้ามานั่งที่อาสน์สงฆ์ ให้หยุดบรรเลงทันที แม้จะยังไม่จบเพลง)
          - ประธานประเคนเครื่องบริวารพระกฐินทั้งหมดแด่พระเถระองค์ครอง แล้วไปนั่ง ที่จัดไว้ ต่อจากนั้น ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ท่านผู้มีเกียรติร่วมประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมแด่พระสงฆ์
          - ประกาศยอดจำนวนเงินที่บริจาคร่วมโดยเสด็จพระราชกุศล เพื่อถวายพระภิกษุสามเณร และถวายบำรุงพระอาราม
          - พระสงฆ์อนุโมทนา ประธานสงฆ์ถวายอดิเรก
          - ประธานกรวดน้ำ รับพร กราบพระรัตนตรัย กราบลาพระสงฆ์ เป็นเสร็จพิธี

คำอ่านคำถวายผ้าพระกฐิน

          เท่าที่เคยไปร่วมพิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน สังเกตเห็นว่า ท่านผู้เป็นประธานมักจะอ่านคำถวายผ้าพระกฐินตะกุกตะกักและออกเสียงผิดพลาดหลายคำ จึงขอเสนอคำอ่านคำถวายผ้าพระกฐินตามหลักภาษาไว้เพื่อพิจารณา ดังต่อไปนี้ (เฉพาะคำที่ขีดเส้นใต้)

          ผ้าพระกฐินทาน   กะ ถิน นะ ทาน
          กับทั้งผ้าอานิสงสบริวารทั้งปวงนี้   อา นิ สง สะ บอ ริ วาน
          ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช  พระ บาด สม เด็ด
        พระ ปะ ระ มิน ทะ ระ มะ หา พู มิ พน อะ ดุน ละ ยะ เดด
          มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี   มะ หิด ตะ ลา ทิ เบด รา มา ทิ บอ ดี
          จักรีนฤบดินทร   จัก กรี นะ รึ บอ ดิน  (อย่าอ่านว่า บอ ดิน ทอน)
          สยามินทราธิราช   สะ หยา มิน ทะ รา ทิ ราด
          บรมนาถบพิตร   บอ รม มะ นาด ถะ บอ พิด

          เฉพาะคำที่เป็นพระปรมาภิไธย [= ชื่อ] ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนี้
              โปรดสังเกตว่า มีคำที่สัมผัสกันระหว่างวรรค คือ
                             เดช (เดด)        กับ      เบศร (เบด)
                             ดี                 กับ      กรี
                             ดินทร (ดิน)      กับ      มินทร- (มิน) 
                             ราช (ราด)       กับ      นาถ (นาด)

          ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ กอปรด้วย  กอบ ด้วย
          พระราชศรัทธา   พระ ราด ชะ สัด ทา
          โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ (ระบุนามบุคคลหรือหน่วยงานที่ได้รับพระราชทาน) 
          น้อมนำมาถวายแด่พระสงฆ์ซึ่งจำพรรษากาล   จำ พัน สา กาน
          ถ้วนไตรมาส ในอาวาสวิหารนี้   อา วาด สะ วิ หาน
          ขอพระสงฆ์จงรับผ้าพระกฐินทานนี้   กะ ถิน นะ ทาน
          กระทำกฐินัตถารกิจ   กะ ถิ นัด ถา ระ กิด
          ตามพระบรมพุทธานุญาตนั้น เทอญ  พระ บอ รม มะ พุด ทา นุ ยาด


No comments:

Post a Comment